คปภ. จัดงานวันประกันภัย 1 ก.ย. 52

. วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

        นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. ได้กำหนดจัดงาน วันประกันภัย ในวันที่ 1 กันยายนนี้ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญ ความจำเป็น และเป็นการส่งเสริมให้คนไทยในทุกช่วงวัยมีการวางแผนการบริหารความเสี่ยงภัย โดยใช้ประโยชน์จากการประกันภัย และการออมเงินด้วยระบบประกันชีวิตมากขึ้น 

        ทั้งนี้ ภายในงานจะมีพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร (Prime Minister's Insurance Awards) ประจำปี 2552 เพื่อเชิดชูองค์กร หน่วยงาน สถาบัน บุคคลหรือกลุ่มบุคคลตัวอย่างดีเด่น ทั้งด้านการเป็นผู้ประกอบการ การประกอบวิชาชีพ การให้บริการด้านการประกันภัย การเผยแพร่ความรู้และการส่งเสริมพัฒนาการประกันภัยของประเทศ และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง การประกันภัยกับการกู้วิกฤติเศรษฐกิจ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 

        สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย ยังได้จัดกิจกรรมงาน สัปดาห์ประกันภัย อบอุ่น มั่นใจ ประกันภัยเพื่อคุณ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 กันยายน 2552 ณ อาคาร 5-6 อิมแพค เมืองทองธานี เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากงานวันประกันภัย โดยมีที่น่าสนใจ อาทิ กิจกรรม Share แสดงนิทรรศการ ให้สาระความรู้ คลินิกประกันภัยให้คำปรึกษาด้านประกันภัย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างผู้อยู่ในวงการธุรกิจประกันภัยกับประชาชน 

        งานสัปดาห์ประกันภัยในส่วนภูมิภาคจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2552 ใน14 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง นครสวรรค์ พิษณุโลก ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี ชลบุรี (พัทยา) ระยอง นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สงขลา (หาดใหญ่) และสุราษฎร์ธานี สอบเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186

 

กรุงเทพประกันภัยชูแคมเปญ""สุดคุ้ม"" รวมความคุ้มครองแต่เบี้ยถูกลง 50% รุกทำตลาดครึ่งปีหลัง

. วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กรุงเทพประกันภัยชูแคมเปญ 'สุดคุ้ม'บ.กรุงเทพประกันภัยรุกขยายตลาดลูกค้ารายย่อย 6 เดือนหลังปีนี้เปิดตัวกรมธรรม์ใหม่

ภายใต้แคมเปญ สุดคุ้ม เน้นรวมความคุ้มครอง แต่เบี้ยประกันภัยถูกลง 40-50% คาดปลาย ส.ค.นี้ ส่งประกันภัยอุบัติเหตุเจาะตลาดผู้สูงอายุ เพิ่มความคุ้มครองกรณีกระดูกแตกและค่ารักษาพยาบาล หลังจากที่เปิดตัวกรมธรรม์ ชุดโรคคลาสสิก กับ ชุดมนุษย์เงินเดือน จับตลาดพนักงานบริษัท ขายผ่านทุกช่องคาดทำเบี้ย 50 ล้านบาท

นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้ารายย่อย บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนการตลาดในกลุ่มของลูกค้ารายย่อยว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้ บริษัทจะกำหนดทิศทางให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจ โดยเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ผู้บริโภค

รู้สึกว่า ตัดสินใจใช้จ่ายเงินแล้วคุ้มค่าและประหยัดมากขึ้น ภายใต้แคมเปญ กรุงเทพประกันภัยสุดคุ้ม ในลักษณะรวมความคุ้มครองหลายอย่าง แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยถูกลง 40-50% เมื่อเทียบกับการซื้อความคุ้มครองประกันสุขภาพหรืออุบัติเหตุส่วนบุคคลที่มีอยู่ในตลาด

เชื่อว่าใน 1 ปีแรกอัตราความเสียหายจากกรมธรรม์นี้จะไม่สูงมากหรืออยู่ 10-20% เนื่องจากกำหนดไม่คุ้มครองหลังทำประกัน 3 เดือน ทำให้โอกาสเกิดความเสียหายน้อย แต่อัตราความเสียหายจะเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป หรืออาจจะสูงถึง 50% แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้

ขณะนี้บริษัทเตรียมขยายตลาดประกันภัยสุดคุ้มไปยังกลุ่มผู้สูงอายุในลักษณะประกันภัยอุบัติเหตุที่เพิ่มความคุ้มครองกรณีกระดูกแตกหักและค่ารักษาพยาบาล เช่น กายภาพบำบัด เนื่องจากปัจจุบันตลาดผู้สูงอายุเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่กลับไม่ได้รับความคุ้มครองหรือความคุ้มครองหายากขึ้น คาดว่าจะเริ่มทำตลาดปลายสิงหาคมเป็นต้นไป

นอกจากนี้ ในไตรมาส 4 มีแผนขยายตลาดลูกค้ารายย่อยผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ โดยออกกรมธรรม์ใหม่ที่เป็นการประกันภัยภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันสุขภาพ เจาะฐานลูกค้าบัตรบีเฟิร์ส (ฐานลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยปัจจุบันภาพรวมการขายกรมธรรม์สำหรับลูกค้ารายย่อยในทุกช่องทางยังเติบโตได้ประมาณ 12% จากปีก่อน ขณะที่เบี้ยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพของบริษัท ปรับขึ้นจากอันดับที่ 10 ของตลาดมาอยู่อันดับที่ 5

ภายใต้แคมเปญสุดคุ้มส่งผลให้บริษัทปรับเป้าเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพภาพรวมเพิ่มขึ้น แต่ไม่เกิน 10% ซึ่งอาจทะลุ 1,000 ล้านบาท จากในช่วง 6 เดือนแรกนี้ (ม.ค.-มิ.ย.2552) สามารถผลิตเบี้ย 580 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 54% ส่วนใหญ่มาจากช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งถึง 65% ที่เหลือเป็นช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์และตัวแทน นายอภิสิทธิ์กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายจักรกริช ชีวนันทพรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้าองค์การ บมจ.กรุงเทพประกันภัย กล่าวว่า บริษัทออก 2 สินค้าใหม่ทำตลาดช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ คือ ชุดโรคคลาสสิกกับชุดมนุษย์เงินเดือน คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 50 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกรมธรรม์ที่มีราคาถูก และมีการจ่ายผลประโยชน์ที่พิเศษแตกต่างจากตลาด

ทั้งนี้ กรมธรรม์ชุดแรก คือ ชุด 4 โรคคลาสสิก (เปิดขายวันแรก 15 ก.ค.) ให้ความคุ้มครอง 4 โรคร้ายแรง (เรื้อรังและถาวร) ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตวายเรื้อรัง หากได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์เป็นครั้งแรกว่าเป็นโรคใดโรคหนึ่ง จะได้รับวงเงินความคุ้มครองชดเชยสูงสุด 200,000 บาท รวมกับผลประโยชน์พิเศษต่อเนื่องทุกๆ เดือนเป็นเวลานานถึง 10 เดือน สูงสุดเดือนละ 50,000 บาท หากรวมผลประโยชน์ที่จะได้รับทั้งหมดสูงถึง 700,000 บาท โดยมีให้เลือกถึง 4 แบบด้วยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 580 บาทต่อปี เบี้ยปรับเพิ่มตามช่วงอายุ (สำหรับคนอายุ 15-30 ปี แบบที่ 1 เบี้ยประกัน 580 บาทต่อปี วงเงินความคุ้มครอง 100,000 บาท ผลประโยชน์พิเศษต่อเนื่องรายเดือน 20,000 บาท เป็นระยะเวลา 10 เดือน ผลประโยชน์รวม 300,000 บาท)

กลางเดือนสิงหาคมนี้ เตรียมออกกรมธรรม์ชุด 2 ชุด มนุษย์เงินเดือน จับตลาดพนักงานบริษัท ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 400,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 25,000 บาทต่อครั้ง หรือตรวจพบครั้งแรกว่าเป็นโรคมะเร็ง จะได้รับการชดเชยสูงสุด 400,000 บาท รวมถึงยังได้รับเงินชดเชยรายวันในระหว่างที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่ว่าด้วยสาเหตุอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย คุ้มครองสูงสุดวันละ 2,500 บาท นานถึง 200 วันรวมทั้งสิ้น 500,000 บาท

กรมธรรม์ดังกล่าวมีให้เลือกถึง 4 แบบ ด้วยเบี้ยประกันเริ่มต้น 2,370 บาทต่อปี เบี้ยประกันคงที่ไม่ปรับเพิ่มตามอายุ (สำหรับคนอายุ 20-34 ปี แบบที่ 1 เบี้ยประกัน 2,370 บาทต่อปี ความคุ้มครองจากอุบัติเหตุ 100,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ 10,000 บาท ตรวจพบโรคมะเร็งระยะแรก 100,000 บาท ผลประโยชน์ชดเชยรายวันขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,000 บาทต่อวัน สูงสุด 200 วัน)

กรมธรรม์โรคร้ายแรงในตลาดทั่วไป มีการรวมโรคร้ายแรงไว้จำนวนมาก เช่น 7 โรค 15

โรค 17 โรค ซึ่งทำให้เบี้ยประกันภัยมีราคาแพง ไม่เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน บริษัทจึงได้ออกกรมธรรม์ดังกล่าวออกมาซึ่งจะมีราคาต่ำกว่าท้องตลาดโดยทั่วไป เพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่าย นายจักรกริชกล่าว

จุรินทร์” ฟุ้งมติบอร์ด ช.พ.ค.ครูได้ประโยชน์ โยนถาม สกสค.เรื่องเลิกกรมธรรม์

. วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

       "จุรินทร์" ฟุ้งมติบอร์ด ช.พ.ค.เป็นไปตามคาด เชื่อ ครูได้ประโยชน์เต็มๆ ไม่ชัวร์ข้อเสนอสมาชิก ช.พ.ค.ให้คุยกรมการประกันภัย ขอยกเลิกกรมธรรม์ที่ทำไปแล้ว ชี้ เป็นไปตามเงื่อนไขทางกฎหมาย โยนถามสำนักงาน สกสค. ด้าน "ชินภัทร" เผย ผู้ยังไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท คืนจากสำนักงาน สกสค.ยื่นเรื่องได้ถึง 31 ส.ค.นี้ พร้อมโอนคืนให้สมาชิก 1 ก.ย.เป็นต้นไป
       
       วันนี้ (17 ส.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการกองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) มีมติเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ร่วมกับธนาคารออมสิน ดำเนินการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 ให้เป็นไปตามมติของ บอร์ด สกสค.ในการประชุมวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ดังนี้ 1.การกู้เงินโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 จะไม่มีเงื่อนไขที่บังคับให้สมาชิก ช.พ.ค.ผู้กู้ต้องทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ แต่ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ และให้กู้เงินได้เต็มเพดานหลังหักค่าจัดการศพ 100,000 บาท ตามระเบียบ ช.พ.ค.แล้ว ซึ่งจะทำให้กู้ได้สูงสุด 590,000 บาท มีผู้ค้ำประกัน 1 คน 2.เงินตอบแทน 1% ที่ธนาคารออมสินมอบให้สำนักงานคณะกรรมการ สกสค.หลังจากหักค่าใช้จ่ายจัดการหนี้เสีย ที่เหลือให้จัดสรรคืนสมาชิก ช.พ.ค.ผู้กู้ที่มีวินัยทางการเงินที่ดี โดยจะคืนให้ในรูปแบบของส่วนลดดอกเบี้ยประมาณ MLR-1 หรืออาจคืนให้ในรูปของเงิน และ 3.มีมติให้ดำเนินโครงการนี้ต่อไป โดยระหว่างนี้ผู้ยื่นกู้ แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้จากธนาคารออมสิน ถ้าต้องการรอใช้เงื่อนไขใหม่ดังกล่าว ให้รีบไปแจ้งชะลอหรือถอนการยื่นกู้ไว้ก่อนได้ ที่ธนาคารออมสินสาขาต่างๆ ที่สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. และที่สำนักงาน สกสค.จังหวัด เพื่อรอการกู้ตามเงื่อนไขใหม่ ซึ่งใช้เวลาอีกเพียง 1-2 สัปดาห์นั้นว่า ตนได้รับรายงานมติของบอร์ด ช.พ.ค.แล้ว และคิดว่า ก็ควรจะต้องเป็นตามที่มอบหมายไป ซึ่งเมื่อบอร์ด ช.พ.ค.ปฏิบัติตามที่มอบไปแล้วนั้นจึงเป็นประโยชน์กับเพื่อนครูมากกว่าเงื่อนไขเดิมมาก
       

       เมื่อถามถึงกรณีที่มีข้อเสนอจากสมาชิก ช.พ.ค.ที่จะขอให้เจรจากับกรมการประกันภัยเพื่อขอยกเลิกกรรมธรรม์หรือเวนคืนกรรมธรรม์นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าสามารถทำได้หรือไม่เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับกฎหมาย และตนไม่สามารถตอบได้ว่าจะทำได้หรือไม่เพราะเรื่องนี้เป็นไปตามเงื่อนไขทางกฎหมาย ดังนั้น จะต้องไปดูกฎหมายว่าหากจะเวรคืนกรมธรรม์หรือขอยกเลิกกรมธรรม์จะดำเนินการได้หรือไม่ ทั้งนี้ ตนคิดว่า การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ของโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.5 จะเป็นประโยชน์กับครูชัดเจนแน่นอนโดยเฉพาะเงื่อนไข 3 ข้อที่ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไป ส่วนเรื่องที่เป็นกรณีรายบุคคล เช่น หากครูต้องการจะขอยกเลิกการทำประกันชีวิตจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและต้องดูว่ากฎหมายจะเปิดโอกาสให้ทำได้หรือไม่นั้น ตนไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบได้ว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ อยากให้ครูสอบถามเรื่องนี้ไปที่สำนักงาน สกสค.ด้วย
       
       นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัด ศธ.กล่าวว่า เมื่อบอร์ด ช.พ.ค.มีมติออกมาแล้วจะต้องไปดำเนินการกับทางธนาคารออมสินเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพราะว่าเป็นคู่สัญญากัน เพียงแต่ว่าได้มีการขอเวลาเจรากันให้เรียบร้อยใน 2 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะครูที่ยังไม่ได้รับเงินกู้สามารถชะลอการดำเนินการเพื่อเข้าสู่หลักเกณฑ์ใหม่จึงไม่มีผลกระทบอะไรแน่นอน
       
       เมื่อถามว่า ขณะนี้ผู้กู้ที่ขอเงิน 10,000 บาท คืนจากสำนักงาน สกสค.จังหวัด และยังไม่ได้รับเงินคืน แม้ว่าบอร์ด ช.พ.ค.จะมีมติมานานแล้ว รวมทั้งกรณีการคืนเงินเช่าพระพุทธโสธร "รุ่นเจริญสุข" ด้วยนั้น นายชินภัทร กล่าวว่า หลักเกณฑ์เรื่องเงิน 10,000 บาทนั้น สำนักงาน สกสค.ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนไปแล้วว่ากรณีที่ครูที่ได้รับเงินกู้ไปแล้วและถูกหักเงิน 10,000 บาท เข้ากองทุนรวมเพื่อความมั่นคงของสมาชิก ช.พ.ค.หากไม่ประสงค์จะร่วมลงทุนในกองทุนดังกล่าวสามารถที่จะขอเงินคืนได้ภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ซึ่งได้จัดทำแบบฟอร์มให้ยื่นแล้วโดยผู้ที่จะได้รับเงินคืนนั้นจะมีการตรวจสอบก่อนว่าเงินดังกล่าวถูกหักเข้าบัญชีของ สกสค.เรียบร้อยแล้ว และจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีของสมาชิกผู้กู้ต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป ส่วนเงินค่าเช่าพระพระพุทธโสธรนั้น ตนไม่แน่ใจเพราะว่ามีคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อยู่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 สิงหาคม 2552 15:32 น.

30 บริษัทวินาศภัย เริ่มทดสอบ RBC

.

     บริษัทวินาศภัยเริ่มเทสต์โมเดล RBC กฎหมายเงินกองทุนใหม่ที่คปภ.จะเริ่มใช้ปี 54 ประเดิม 30 บริษัทที่สมัครใจเป็นหนูลองยาทดสอบระดับเงินกอง ทุนตามหลักการคำนวณสากล รู้ทันทีใครขาด-เกินเท่าไหร่ รอดหรือตายกี่บริษัท วงการชี้จำนวนบริษัทที่ร่วมทด สอบน้อยเกินไปไม่สะท้อนภาพรวมเงินกองทุนแท้จริงอุตสาหกรรมพอหรือ ไม่พอ ชี้อย่างต่ำต้องเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 80% หรือ 55 บริษัทขึ้นไป คาดบางส่วนไม่ร่วมเพราะยังไม่เข้าใจ กลัวความลับรั่ว

      นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผย สยาม ธุรกิจ ภายหลังร่วมประชุมกับผู้บริหาร บริษัทประกันวินาศภัย (CEO Lunch Talk) เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า ทางสำนักงานอัตราเบี้ยประกันภัย (IPRB) ได้มาชี้แจงกับผู้บริหารเกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยง (Risk-based Capital : RBC) ซึ่ง เป็นกฎหมายเงินกองทุนใหม่ล่าสุดที่สำนักงาน

      คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะนำมาใช้กำกับดูแลฐานะการเงินบริษัทประกันภัยใน ปี 2553 เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการคำนวณเงินกองทุน การตั้งสำรองแบบใหม่ตาม Risk charge ของคปภ.จะมีผลกระทบต่อบริษัทประกันภัยอย่างไรบ้างโดยเฉพาะเงินกอง ทุนเพื่อให้บริษัทเตรียมตัว

ยิ่งกว่านั้น จะให้บริษัทสมาชิกได้เริ่มทดสอบโมเดล RBC ของคปภ.หากใช้เกณฑ์คำนวณเต็มรูปแบบเงินกองทุนจะเกินหรือขาดมากน้อยเพียงใด โดยจะเริ่มทด ลองกับบริษัทประกันวินาศภัย 30 บริษัทที่สมัครใจเข้าร่วมทดสอบโมเดล RBC ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้

     จำนวนบริษัทที่จะทดสอบโมโดล RBC อาจจะน้อยเกินไปหากเทียบกับจำนวน บริษัททั้งหมดในอุตสาหกรรมที่มีถึง 71 บริษัท ซึ่งสาเหตุที่บริษัทเข้าร่วมน้อยอาจจะเนื่องจากเรายังชี้แจงข้อมูลกับพวกเขาไม่ดีพอ ทำให้ไม่เข้าใจและส่วนหนึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญจนต้องลองทดสอบโมเดลดูก่อน แต่เชื่อว่าการทดสอบครั้งต่อไปอาจจะมากกว่านี้ โดย 30 บริษัทที่มาทดสอบคละกันระหว่างบริษัทใหญ่ กลาง เล็ก

     นายจีรพันธ์กล่าวว่า ในการทดสอบ จะให้แต่ละบริษัทนำตัวเลขใส่ลงไปในโมเดล ต่างๆ ตามวิธีคำนวณแบบใหม่ให้ครบทุกโมเดล ซึ่งแต่ละบริษัทจะรู้ผลทันทีเงินกองทุนขาดหรือเกินอยู่เท่าไร สาเหตุมาจาก อะไร รวมถึงรู้ภาพรวมเงินกองทุนของ 30 บริษัทด้วย ซึ่งทางคณะทำงาน RBC ที่สมาคมจัดตั้งขึ้นจะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลนำมาประชุมกันอีกครั้งวิเคราะห์เงินกองทุนเบื้องต้นอุตสาหกรรมขาดหรือเกินอย่างไร มาจากประเด็นอะไรเป็นสำคัญ รวมถึงดูว่า โมเดลที่ใช้ทดสอบเหมาะสมหรือไม่ จะต้องปรับปรุงในเรื่องใดบ้างเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น และความมั่นคงกับบริษัทประกันภัย โดยโมเดลที่จะใช้จริงต้องแล้วเสร็จภายในปีนี้

     ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัย กล่าวว่า จำนวนบริษัทที่ร่วมทดสอบโมเดลน้อยเกินไปทำให้ไม่เห็นภาพรวมข้อมูลเงินกองทุนของอุตสาหกรรมภาพรวมมีจำนวนเท่าไร ขาดหรือเกินมากน้อยเพียงใดเมื่อใช้ RBC ถ้าจะให้เห็นตัวเลขที่ชัดเจนและแม่นยำต้องมีบริษัทเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 80% หรือ 55 บริษัทขึ้นไป โดยสาเหตุที่บริษัทประกันภัยเข้าร่วมน้อยอาจจะเนื่องจากไม่แน่ใจระบบฐานข้อมูลตัวเอง หรือเกรงความ ลับรั่วไหลทั้งที่การทดสอบไม่ได้มีการเปิดเผยชื่อบริษัทออกมา

     การทดสอบจะทำให้เรารู้ว่าหากใช้ RBC เต็มรูปแบบใน 30 บริษัทมีกี่บริษัทที่ ไม่ต้องเพิ่มทุนและอยู่รอดได้ และมีกี่บริษัทที่ต้องเพิ่มทุนเพราะมีเงินกองทุนไม่เพียงพอ ทำให้บริษัทสามารถประเมินตัวเองได้ พอ จะเห็นภาพรวมอุตสาหกรรมแม้จะไม่ชัดนักก็ตาม โดยโมเดลของคปภ.ที่นำมาบริษัท ประกันภัยทดสอบเป็นโมเดลของต่างประเทศที่ปรับปรุงให้เหมาะกับบ้านเราแล้ว โดยจะทดสอบกับทุกปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อเงินกองทุน

ประกันภัยเบ็ดเตล็ด

. วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ประกันภัยอัคคีภัย

การประกันอัคคีภัย เป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่งที่มีบทบาท รับผิดชอบต่อสังคมทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งต่อมวลมนุษย์โดยส่วนรวมและ บุคคล การประกันอัคคีภัย คือ การให้ความคุ้มครองทรัพย์สินต่างๆของผู้เอาประกันภัยไม่ว่าจะเป็น สังหาริมทรัพย์ หรือ อสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่าง ที่อาจเกิดความสูญเสียหรือเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้เป็นหลัก

บริษัทฯให้บริการประกันอัคคีภัย ทุกประเภท เช่น ประกันอัคคีภัย สำหรับที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้าง เฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งสต็อกสินค้า และเครื่องจักร

โดยมีขอบเขตความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยมาตรฐานมีดังนี้ คือ

เพลิงไหม้ ไม่ว่าจะเกิดจากการระเบิดหรือไม่ก็ตาม
ฟ้าผ่า จะต้องเป็นการเสียหายที่เกิดขึ้นจากฟ้าผ่าโดยตรงเท่านั้นและไม่จำเป็นต้องมีไฟไหม้
การระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่าง หรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น เช่น แก๊สหุงต้ม (ไม่ใช่เพื่อการค้าหรืออุตสาหกรรม)
ความเสียหายที่เกิดจากน้ำหรือวัตถุเคมีที่ใช้ในการดับเพลิง
ความเสียหายอันเกิดจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เช่น การพังบ้านหรือการกระทำใดๆเพื่อการดับเพลิงและป้องกันไม่ให้ไฟขยายตัวและลุกลาม
ความเสียหายจากควัน เขม่า อันเนื่องมาจากการเกิดอัคคีภัย

ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย

สิ่งปลูกสร้าง หมายถึง ตัวอาคารที่ปลูกสร้างขึ้นมาไม่รวมถึงรากฐาน ของสิ่งปลูกสร้าง ทั้งนี้เพราะหากเกิดความเสียหายขึ้น รากฐานของสิ่งปลูกสร้างจะไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เช่น เสาเข็มที่ตอกลึกลงในดิน เป็นต้น
เฟอร์นิเจอร์ หมายถึง เครื่องเรือน เครื่องใช้สอยและสิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่จะต้องมีอยู่ภายในตัวอาคาร และให้รวมถึงสิ่งตกแต่งตัวอาคารและเครื่องติดตั้งตรึงตรา
สต๊อกสินค้า หมายถึง สต๊อกสินค้าที่สำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป หรือวัตถุดิบของสินค้า ซึ่งเก็บอยู่ในสถานที่เอาประกัน (ควรระบุรายละเอียดประเภทของสินค้าด้วย)
เครื่องจักร หมายถึง เครื่องจักรต่าง ๆ ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือที่เกี่ยวข้องด้วย

ที่มา เว็บไซต์บริษัทสินมั่นคง ประกันภัย

ประกันภยขนส่งทางทะเล

.

การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง

บริษัทฯให้บริการประกันภัยการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยให้ความคุ้มครองทั้งการขนส่งทางเรือ ทางเครื่องบิน ทางรถยนต์ และทางรถไฟ ดังรายละเอียดภัยที่คุ้มครองและเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์

เงื่อนไขความคุ้มครอง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

Institute Cargo Clauses (C)
Institute Cargo Clauses (C) -ICC (C)
คุ้มครองความเสียหายหรือสูญเสีย (ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด)
เนื่องจากเพลิงไหม้, ระเบิด, เรือเกยตื้น, จมหรือล่ม, ยานพาหนะทางบกพลิกคว่ำ,หรือตกจากราง,เรือหรือยานพาหนะชนหรือโดนกับวัตถุอื่นใด,การขนส่งสินค้าลงจากเรือ ณ ท่าหลบภัย, ความเสียหายที่เกิดกับส่วนรวม, สินค้าถูกโยนทิ้งทะเล
Institute Cargo Clauses (B)
Institute Cargo Clauses (B) –ICC (B)
นอกจากความคุ้มครองตาม ICC (C) แล้ว ยังรวมคุ้มครองถึงแผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิด ฟ้าผ่า, สินค้าถูกน้ำทะเลซัดตกเรือไป, น้ำจากแม่น้ำ ทะเลสาป หรือน้ำรั่วไหลเข้ามาในเรือ, ในยานพาหนะ ในระวางหรือในตู้ลำเลียง หรือในสถานที่เก็บสินค้า, สินค้าทั้งหีบห่อเสียหายโดยสิ้นเชิง เพราะตกจากเรือ หรือเกิดจากการขนขึ้นขนลงจากเรือหรือยานพาหนะ
Institute Cargo Clauses (A)
Institute Cargo Clauses (A) –ICC (A)
ระบุให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยทุกอย่าง ยกเว้นที่ระบุในข้อยกเว้น
ที่มา เว็บไซต์บริษัทสินมั่นคง ประกันภัย

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ การประกันภัยภาคบังคับ

.

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ

การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า "ประกัน พรบ." เป็นการประกันภัยที่กฏหมายบังคับให้รถทุกคัน ทุกประเภท ต้องทำประกันภัย ใครไม่ทำมีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พศ. 2535 ต้องถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 10,000 บาท

วัตถุประสงค์หลักของการทำประกันภัยภาคบังคับ

เพื่อให้ความคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งได้รับ ความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย ให้ได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย และค่าเสียหายเบื้องต้นอย่าง ทันท่วงที และเป็นหลักประกันแก่สถานพยาบาลทุกแห่งว่าได้รับค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ให้การรักษาแก่ผู้ประสบภัยจากรถแน่นอน

รถที่ต้องทำประกันภัย

รถทุกคันทุกประเภทที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก เป็นยานพาหนะทุกชนิดที่ใช้ในการขนส่งทางบกซึ่งเดินด้วยกำลัง เครื่องยนต์และหมายรวมถึงรถพ่วงของรถนั้นด้วย

ผู้ที่ได้รับความคุ้มครองจากการประกันภัย

ประชาชนทุกคนที่ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ขับขี่รถ ผู้โดยสาร คนเดินเท้า คนข้ามถนน ซึ่งได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย เนื่องจากรถหรือสิ่งที่บรรทุกหรือติดตั้งไว้ในรถ ทั้งนี้รวมถึงทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยซึ่งถึงแก่ความตายด้วย โดยจะได้รับค่าชดใช้ค่าเสียหายตามกฏหมายนี้ทั้งสิ้น

เงื่อนไขความคุ้มครองผู้ประกันภัย

ได้รับความเสียหายต่อร่างกาย หรืออนามัย แต่ไม่สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ บริษัทจะจ่ายค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียหายอย่างอื่นที่ผู้ประสบภัยสามารถเรียกร้องได้ตามมูลละเมิด ตามความเสียหายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อหนึ่งคน

ได้รับความเสียหายต่อร่างกาย หรืออนามัย บริษัทจะจ่ายเต็มตามจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทต่อหนึ่งคน
ตาบอด
หูหนวก
เป็นใบ้ หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
เสียแขน ขา มือ เท้า หรืออวัยวะอื่นใด
จิตพิการอย่างถาวร
ทุพพลภาพอย่างถาวร
ในกรณีเสียชีวิต บริษัทจะจ่ายเต็มตามจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทต่อหนึ่งคน
ในกรณีได้รับความเสียหายตามข้อ 1 และต่อมาได้รับความเสียหายตามข้อ 2 หรือ 3 หรือทั้งตาม ข้อ 2 และ 3 บริษัทจะจ่ายเต็มตามจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทต่อหนึ่งคน

ข้อควรรู้การประกันภัย และ พรบ. การประกันภัย

การโอนรถ กรณีที่รถที่เจ้าของได้เอาประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัย ได้โอนไปยังบุคคลอื่น ให้ผู้ได้มาซึ่งรถดังกล่าวมีฐานะเสมือนเป็นผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์นั้น และบริษัทประกันต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวต่อไปตลอดอายุของกรมธรรม์ประกันภัยที่ยังเหลืออยู่

ข้อยกเว้นที่การประกันภัยไม่คุ้มครอง

สงคราม การรุกราน การกระทำของชาติศัตรู การสู้รบหรือการปฏิบัติการที่มีลักษณะเป็นการทำสงคราม(จะได้ประกาศสงครามหรือไม่ก็ตาม)
สงครามการเมือง การแข็งข้อของทหาร การกบฎ การปฏิวัติ การต่อต้านรัฐบาล การยึดอำนาจการปกครองโดยกำลังทหารหรือโดยประการอื่น ประชาชนก่อความวุ่นวายถึงขนาดหรือเท่ากับการลุกฮือต่อต้านรัฐบาล
วัตถุอาวุธปรมาณู
การแตกตัวของประจุ การแผ่รังสี การกระทบกัมมันตภาพรังสีจากเชื้อเพลิงปรมาณู หรือจากกากปรมาณูอันเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงปรมาณู และสำหรับจุดประสงค์ข้อสัญญานี้ การเผาไหม้นั้นรวมถึงกรรมวิธีใด ๆ แห่งการแตกแยกปรมาณู ซึ่งดำเนินติดต่อไปด้วยตัวของมันเอง
ความเสียหายที่เกิดจากรถที่ถูกยักยอก ฉ้อโกง กรรโชก ลักทรัพย์ รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
การใช้นอกประเทศไทย
การใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ได้แก่ใช้รถไปปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือใช้ขนยาเสพติด เป็นต้น
การใช้ในการแข่งขัน หรือทดลองความทนทาน หรือความเร็วในทางกีฬา
การใช้โดยบุคคลของอู่ เมื่อรถได้มอบให้อู่ทำการซ่อม เว้นแต่การซ่อมนั้นบริษัทเป็นผู้สั่งหรือให้ความยินยอม
การขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับขี่ใด ๆ หรือเคยได้รับแต่ถูกตัดสิทธิตามกฎหมายหรือใช้ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ขับขี่รถยนต์ การขับขี่โดยบุคคลขณะที่อยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรายาเมา ถึงขนาดที่ไม่สามารถควบคุมรถได้


ที่มา เว็บไซต์บริษัทสินมั่นคง ประกันภัย

ข้อแตกต่างระหว่างประกันภัยภาคสมัครใจ และภาคบังคับ

.

พรบ. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

     เป็นการประกันภัยที่ใครอยากทำก็ทำ ไม่มีการบังคับกัน การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนี้เป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ (ผู้เอาประกัน) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) โดยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้ตามความต้องการและกำลังเงินที่มีอยู่ และเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ทำประกันภัยที่ขับรถดี มีความระมัดระวัง ในการขับขี่และมีความเสี่ยงภัยในการใช้รถต่ำ กรมการประกันภัยจึงได้ปรับปรุงโครงสร้าง การประกันภัยรถยนต์ใหม่ ให้สอดคล้องกับระบบสากลโดยนำเอา ปัจจัยเกี่ยวกับตัวผู้ขับขี่ ลักษณะการใช้รถ กลุ่ม ขนาด และอายุรถ ฯลฯ มาเป็นองค์ประกอบในการคำนวณเบี้ยประกันภัย

พรบ. ประเภทของกรมธรรม์ประกันภัยภาคสมัครใจ

การประกันภัยรถยนต์ มีความคุ้มครองให้เลือก 3 ประเภทคือ

ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 (ชั้น 1) ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด คือ
   ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
   ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
   ความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
   ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 (ชั้น 2) ผู้ทำประกันภัยประเภทนี้จะได้รับความคุ้มครอง
   ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
   ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
   ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 (ชั้น 3) ซึ่งเป็นประเภทที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภานอกดังนี้
   ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
   ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
   ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย

ที่มา เว็บไซต์บริษัทสินมั่นคง ประกันภัย